allfine ได้ก่อตั้ง “โครงการสุนัขนักบำบัดแห่งประเทศไทย” (Therapy Dog Thailand) เพื่อให้ได้ “ทีมสุนัขนักบำบัด แห่งประเทศไทย” (Certified Therapy Dog Thailand Team) ที่ได้มาตรฐานสากลขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย โดยอาศัยหลักสูตร การอบรมตามแนวทางที่เราได้รับความร่วมมือจาก Therapy Dog Association Switzerland VTHS ซึ่งเป็นหลักสูตรที่จะ ดึงศักยภาพของ “เจ้าของสุนัขและสุนัขของเขา” ให้กลายเป็น “คู่หูนักบำบัด” ที่ออกทำงานสร้างความรักและความสุขให้กับคนในกลุ่มต่างๆ และที่สำคัญที่สุด คือการพัฒนาศักยภาพของผู้เลี้ยงสุนัขปกติให้มีความสามารถในการเป็นผู้ช่วยของแพทย์ในการทำงานภาคการบำบัด เพื่อทลายกำแพงใจของผู้ป่วย ให้เปิดรับการรักษาทางด้านการแพทย์ได้อย่างดีมีประสิทธิผล

“หลักสูตรสุนัขนักบำบัดแห่งประเทศไทย” หรือ “Certified Therapy Dog Thailand Course” ถูกพัฒนาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ของไทยในองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญที่สุดในการดูแลคนแต่ละกลุ่มของไทย เพื่อให้ “ทีมสุนัขนักบำบัดแห่งประเทศไทย” สามารถดูแลคนได้ ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น ผู้สูงวัย เด็ก เด็กที่มีความต้องการพิเศษ ผู้พิการ และผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า โดยมุ่งเน้นสู่เป้าหมาย การเป็น “หนึ่งในทางเลือกเครื่องมือแพทย์ที่จะช่วยดูแลกายและใจผู้ป่วยหรือผู้ที่ต้องการในประเทศไทย” อาทิ หน่วยงานในสังกัดของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โรงพยาบาลศรีธัญญา มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ มูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวกในพระบรมราชินูปถัมภ์ กรมการแพทย์ โรงพยาบาลศรีธัญญา ศูนย์การศึกษาพิเศษ กองกำกับการสุนัขตำรวจ สมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย กลุ่มสัตวแพทย์ไทย และ ครูฝึกสุนัขจากหลากหลายสถาบัน เป็นต้น

“หลักสูตรสุนัขนักบำบัดแห่งประเทศไทยสู่การดูแลคนทุกกลุ่ม” หรือ Certified Therapy Dog Thailand Course for Visiting All People เป็นหลักสูตรแรกที่เราได้จัดทำนับตั้งแต่เปิดโครงการฯ มีระยะเวลาอบรม 8 เดือน คือ หลักสูตรการฝึกสอนสุนัขและเจ้าของสุนัข เพื่อดึงศักยภาพความเป็นนักบำบัดของเจ้าของและสุนัขออกมาในการช่วยเหลือทุกคน ให้มีความสุข ผ่อนคลาย ทางกายและใจเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้สูงวัย ผู้ป่วย ผู้ที่มีความต้องการพิเศษและผู้พิการ โดยการฝึกอบรมจะเป็นการอบรมที่มี ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เน้นเรื่องการพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่เจ้าของให้มีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับ “คนทุกกลุ่มที่เป็นผู้รับบริการ” ได้รู้ว่าผู้ป่วยในกลุ่มต่างๆ นั้นมีลักษณะพื้นฐานทางกายภาพเช่นไร แต่ละประเภทของผู้ป่วยในแต่ละกลุ่มควรได้รับ การดูแลเช่นไร การดูแลสุขภาพกายและใจของผู้ป่วย และหัวใจสำคัญของการอบรมคือ การออกแบบการบำบัดด้วยการใช้สุนัขเป็นตัวเชื่อมโยงในการบำบัดผู้ป่วยด้วยความเป็นมนุษย์ที่มี Empathy เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมามีชีวิตด้วยการใช้สิ่งมีชีวิตอีกครั้ง รวมถึงญาติก็เกิดความมั่นใจ รู้สึกปลอดภัย จึงได้ประโยชน์สูงสุดทั้งผู้ให้และผู้รับ

นอกจากนั้นเราได้มี “สมาคมสุนัขนักบำบัด” (Therapy Dog Association) ที่ทำงานด้านการบำบัด โดยสมาคม ฯ นี้บริหารโดยทีมสุนัขนักบำบัดที่ได้รับการรับรองเป็น “ทีมสุนัขนักบำบัดแห่งประเทศไทย” ดังนั้นผู้เข้าอบรมในหลักสูตรนี้ เมื่อเรียนจบและสอบผ่านครบตามเกณฑ์ที่กำหนด ก็จะได้เข้าเป็นสมาชิกของสมาคมฯ เพื่อทำงานภาคการบำบัดในสถานพยาบาล โรงเรียน และสถานที่ต่างๆ ร่วมกันสมาคมฯ นั่นเอง

ในปัจจุบัน เราได้เริ่มมีหลักสูตรระยะสั้น ซึ่งเป็นหลักสูตรเฉพาะสู่การดูแลคนเฉพาะกลุ่ม สำหรับ นักเรียน และ นักศึกษา ซึ่งเป็นหลักสูตรระยะสั้น 4 สัปดาห์ โดยหัวใจสำคัญคือการอบรมเพื่อให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา ได้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับสุนัข และการนำสุนัขไปใช้ดูแลผู้สูงวัยในครอบครัว โดยเมื่อเรียนจบนักเรียน นิสิต นักศึกษา สามารถนำใบประกาศนียบัตรไปใช้ประกอบการเข้าเรียนในสถาบันชั้นนำของต่างประเทศได้อีกด้วย เพราเมื่อสอบผ่านการอบรม นักเรียน นิสิต นักศึกษา จะมีโอกาสได้ไปบำบัดผู้ป่วยสูงวัยในสถานพยาบาลอีกด้วย

ในอนาคตเรามองว่า “ทีมสุนัขบำบัดแห่งประเทศไทย” จะกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญของครอบครัว ชุมชน และวงการแพทย์ไทยเหมือนต่างประเทศอย่างแน่นอน โดยขณะนี้กลุ่มประเทศในโซนเอเชียที่มองเห็นถึงประโยชน์จากการใช้สุนัขนักบำบัด ได้ก่อตั้งองค์กรขึ้นมาเพื่อการฝึกอบรมสุนัขนักบำบัดอย่างเป็นทางการแล้วหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น (International Therapy Dog Association) สิงค์โปร์ (Therapy Dogs Singapore) และฮ่องกง (Hong Kong Therapy Dog Association)

เพื่อสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ให้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษา โครงการสุนัขนักบำบัด โดย ออลไฟน์ และสมาคมสุนัขนักบำบัด จึงได้จัด โครงการ “ให้ เพื่อ ให้” (Give to Give) ซึ่งเป็นการให้ทุนการศึกษาด้วยการจัดอัตราส่วนพิเศษแก่นักเรียนและนักศึกษา เพื่อแบ่งปันความรู้สู่เยาวชน ให้พวกเขาสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างความรัก และความสุขให้แก่ตนเองและคนรอบตัวได้ สามารถมองเห็นคุณค่าของตนเองและผู้อื่นได้ด้วยความรักและความเข้าใจ อีกทั้ง เรายังหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ประเทศไทยจะได้ มีเครื่องมือบำบัดผู้ป่วยด้วยธรรมชาติรูปแบบใหม่ที่ได้มาตรฐานสากล และยังประโยชน์ทางด้านการแพทย์เพื่อบำบัดผู้ป่วยให้กลับมามีชีวิตชีวาและสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ป่วยได้อีกครั้ง