• ด้านร่างกาย – มีผลการวิจัยแสงดให้เห็นว่า การเล่นกับสุนัข ทำให้ความดันลดลง กระตุ้นร่างกาย และช่วยจัดการอาการเจ็บปวดของร่างกาย
• ด้านสังคม – ช่วยส่งเสริมความมั่นใจในตัวเอง และมีสมาธิในการการปฏิสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างครูกับนักเรียน เนื่องจากได้รับความเชื่อใจ และความรักที่ไม่มีเงื่อนไขจากน้องหมา และผลการวิจัยยังบอกว่าสุนัขนักบำบัดทำให้เด็กขาดเรียนน้อยลง ลดพฤติกรรมความกังวล ทำให้เรียนได้ดีขึ้น เช่น ทำให้ระดับการอ่านและเขียนเพิ่มขึ้น
• ด้านการรับรู้ – จากการพิสูจน์พบว่า สุนัขนักบำบัดช่วยกระตุ้นความจำ และทักษะการแก้ไขปัญหาได้ ช่วยพัฒนาเรื่องการอ่านออกเขียนได้อีกด้วย
• ด้านอารมณ์และจิตใจ – จากการสำรวจเด็กวัยรุ่นอายุ 13-18 ปี มีจำนวน 8-10% ทีเดียวที่มีปัญหาเรื่อความกังวลกระวนกระวาย สุนัขนักบำบัดจะช่วยสร้างอารมณ์ในห้องเรียนให้ดีขึ้น กระตุ้นเสียงหัวเราะ แถมยังมอบมิตรภาพที่ดี เป็นไหล่ให้เด็กๆได้ซบอีกด้วย

มีมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลก เช่น Yale Law School ได้นำสุนัขบำบัดเข้าในใช้ เพื่อให้นักศึกษามีความกดดันลดลง เช่น นักศึกษาที่ต้องมาอยู่ไกลบ้านเป็นครั้งแรก เจอการเรียนอย่างหนักในชั้นเรียน นักวิจัยพบว่า นักศึกษาในมหาวิทยาลัย มีความเครียดและความกังวลลดลงอย่างชัดเจน แถมยังมีความสุข และ “พลังเพิ่มขึ้น ในทันทีหลังจากใช้เวลากับสุนัขนักบำบัด”

นี่เป็นเพียงบทบาทหนึ่งของน้องหมาผู้แสนอ่อนโยนอบอุ่น ที่มีตำแหน่งเป็น “นักบำบัดมืออาชีพ” แล้วจะยิ่งดีเพียงไร ถ้าคุณสามารถฝึกน้องหมาของคุณให้เป็นผู้ช่วยประจำบ้าน ดูแลเด็กๆ ภายในบ้าน เพิ่มความความสุข และเติบโตไปพร้อมๆกัน